วันที่ 25 ต.ค. สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จัดงานสัมมนาและพิธีมอบรางวัล Thailand CEO ECONMASS Awards 2023 “FAST Forward>>Better Thailand” ภายใต้หัวข้อสัมมนา “เร่งเครื่องยนต์เศรษฐกิจ ลดค่าครองชีพประชาชน”
นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า งานหลักของกระทรวงพาณิชย์ คือลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ซึ่งในเรื่องการส่งออก 10 เดือนปี 66 ติดลบ 3.8% แต่เดือนล่าสุด ก.ย. 66 เป็นบวก 2.1% ดุลการค้าเป็นบวกสองเดือนติด ถือเป็นสัญญาณดีที่การส่งออกกลับมาบวก 2 เดือนติดต่อกัน มูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 2.5 หมื่นดอลลาร์ ในเดือน ก.ย. จากเดือนก่อนหน้า 2.4 หมื่นดอลลาร์ เทียบประเทศอื่น ผู้ส่งออกหลายประเทศติดลบมาอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นไทยและเวียดนาม ที่เป็นบวกจากยอดส่งออกกลุ่มรถยนต์มากที่สุด ส่วนสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้น สะท้อนรายได้ถึงรากหญ้า
ทั้งนี้ในช่วงที่เหลือของปี 66 จะเร่งผลักดันและขับเคลื่อนเต็มที่เพื่อให้ส่งออกติดลบน้อยที่สุด โดยเน้นย้ำกับภาคเอกชนต้องจับมือเดินไปด้วยกันพยายามเต็มที่ แต่กังวลปัจจัยควบคุมไม่ได้ คือสงครามอิสราเอล ถ้าลุกลามก็จะกระทบเยอะ ขณะที่ในปี 67 รอเห็นตัวเลขทั้งปีและหารือกับภาคเอกชนถึงจะสรุปได้
นอกจากนี้ทูตพาณิชย์ ต้องทำงานหนัก ส่งเสริมผลักดันการส่งออก และในเดือน พ.ย.นี้ จะเชิญทูตพาณิชย์ทั่วโลกกลับมาประชุมหารือถึงแผนสนับสนุนการค้าของไทย รวมถึงผลักดันเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม ในการหาตลาดใหม่ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยต้องเจรจาพยายามทำให้จบเร็วที่สุด เพราะถ้าช้าจะเสียโอกาส เชื่อว่าทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน
นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า อุตสาหกรรมไทยจะเดินแบบเดิมไม่ได้ ต้องเป็นเศรษฐกิจก้าวหน้ายั่งยืน โดยในอนาคตการทำธุรกิจอุตสาหกรรมต้องออกเป็นการค้าและบริการมากขึ้น ขับเคลื่อน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย และอุตสาหกรรมกึ่งบริการ รวมถึงอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ ดึงมาทำให้อุตสาหกรรมเศรษฐกิจแข็งแรง เช่น อาหารไทยมีความละเอียดอ่อน มีมาตรฐาน ทำให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์ได้, ประยุกต์เศรษฐกิจฐานราก ดึงการบริหารจัดการสมัยใหม่ เกษตรอุตสาหกรรม นักธุรกิจเกษตร อุตสาหกรรมชุมชน
ทั้งนี้ในเรื่องอุตสาหกรรมใหม่ ล่าสุดได้ตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ หรือบอรด์อีวี และเดินหน้าต่อ และอุตสาหกรรมต้องอยู่ได้ดีกับชุมชนโดยรอบ มีการตรวจโรงงาน รายงานข้อมูล ให้ความสำคัญกับชุมชนและโรงงานต้องปรับตัวให้อยู่ร่วมกับชุมชน ซึ่งขณะนี้ในภาคอุตสาหกรรมจะดูแค่มาตรฐานสินค้าเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีกฎกติกาอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น เกี่ยวกับคาร์บอน พืชไร่ต้องไม่เผา ไม่กระทบกับพีเอ็ม 2.5 และการกระจายรายได้ต้องอยู่รอบชุมชนรอบโรงงาน
นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า งานของกระทรวงคมนาคมไม่ได้เพียงแต่จัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นเท่านั้น แต่ระบบคมนาคมต่างๆ ที่ดำเนินการทั้งลดราคาค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดกับสายสีแดงและสีม่วง ซึ่งมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในสายสีม่วงจากกว่า 1 หมื่นคนเป็น 7.4 หมื่นคนต่อสัปดาห์ และสายสีแดงกว่า 2 หมื่นคนเป็น 3.5 หมื่นคนต่อสัปดาห์ ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว สายสีน้ำเงิน และสายสีเหลืองจะต้องมาหารือกันต่อ และอาจหารือการดำเนินการร่วมกับตั๋วใบเดียวด้วย เป็นเรื่องควิกวินต้องให้เสร็จโดยเร็ว
ส่วนระบบคมนาคมต่างๆ อย่างรถเมล์ไฟฟ้า รถเมล์อีวี เร่งการใช้เข้ามาในระบบสาธารณะและได้ให้ใบอนุญาตกว่า 2,000 คัน โดยอีกใน 3 ปีข้างหน้าจะมีมากถึง 6,000 คัน รอบกรุงเทพฯ และจะต่อยอดไปรถแท็กซี่ไฟฟ้าด้วย รวมถึงอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะมีรถไฟฟ้ารวมทั้งหมด 375 กิโลเมตร จากแผน 14 เส้นทาง 554 กิโลเมตร ส่วนรถไฟ จะขยายโครงข่ายรถไฟฟ้าจากทางเดี่ยวเป็นรถไฟทางคู่ และต้องเร่งดำเนินการต่อเชื่อมรถไฟสายกรุงเทพไปนครราชสีมา เป็นโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน
นอกจากนี้จะพยายามเร่งแก้ไขเส้นทางถนนที่มีปัญหาและเร่งแก้ปัญหาคอขวดในพื้นที่ต่างๆ รวมถึงอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษ โดยต่อยอดเส้นทางบ้านแพ้วไปปากท่อ เพื่อแก้ปัญหา และเชื่อมต่อมอเตอร์เวย์ นครปฐมไปหัวหิน และพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานเดือนเมือง ท่าอากาศยานแนวชายฝั่งอันดามัน และภาคเหนือตอนบน รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ เป็นการทำยุทธศาสตร์พลิกประเทศ
นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรืออีอีซี กล่าวว่า โครงการอีอีซี ดึงเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในประเทศ และโจทย์คือต้องให้ไปถึงเชิงสังคมและประชาชน นำเงินลงทุนลงไปในพื้นที่ชุมชน ซึ่งในอนาคตโจทย์ดูแลอุตสาหกรรมเป้าหมาย 12 อุตาหกรรม มี 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ จับเป็นเทรนด์ซึ่งถ้ามีฉลามเข้ามา คนในชุมชนต้องเป็นเหาไปเกาะได้ โดยประชาชนต้องจับการเชื่อมโยงไปพื้นที่ได้
นายนิธี สีแพร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. เดินเครื่องการท่องเที่ยว อุตสหากรรมท่องเที่ยวทำรายได้เข้าประเทศ 1 ใน 4 จีดีพีประเทศ โดยเชิญชวนคนต่างชาติเข้าเที่ยวไทย และให้คนไทยเที่ยวไทย ทำเรื่องเชิญชวนคนเที่ยวไทยต่อเนื่อง ช่วยเกิดรายได้ในท้องถิ่น และต้องให้ความสำคัญการเดินทางสะดวก ประทับใจ ซึ่งการที่รัฐบาลยกเว้นวีซ่าจีน ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมากขึ้น แม้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นแต่นักท่องเที่ยวจีนมีความมั่นใจอยู่คำพูดจาก ทดลองเล่นสล็อต
ขณะที่ไทยต้องขับเคลื่อนและมีความร่วมมือสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวอยู่นานและมีการใช้จ่ายสูงในไทย โดยก่อนโควิดไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3 ล้านล้านบาท จำนวน 40 ล้านคน ในปีที่แล้วฟื้นตัวเต็มที่ 11 ล้านคน และปีนี้จะเพิ่มถึง 25 ล้านคน โดยยังผลักดันให้คนเที่ยวเมืองรอง และมีซอฟต์พาวเวอร์ยกระดับท่องเที่ยวไทย
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธาน กกร. กล่าวว่า เชื่อว่าเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) จะสามารถเติบโตได้ 5% ตามที่รัฐบาลตั้งเป้า มองว่ามีความเป็นไปได้เห็นจากการทำงานรัฐบาลชุดนี้ จากเดินทางไปต่างประเทศร่วมกับนายกรัฐมนตรี ที่เป็นเซลส์แมน มีความมุ่งมั่น และได้พาภาคเอกชนไปพบซีอีโอบริษัทยักษ์ใหญ่ พานักธุรกิจไปทำบิซิเนสแมชชิ่ง
ทั้งนี้ในส่วนของหอการค้าพยายามผลักดันเจรจาเอฟทีเอของอียู รวมถึงยูเออี พยายามสรุปให้ได้ รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจและเดินหน้าให้ได้เพื่อให้การส่งออกเติบโตดี และการลงทุนโดยตรง (เอฟดีไอ) เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงต้องเร่งแก้ไขกฎระเบียบเอื้อให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนย้ายฐานการผลิตเข้ามาในไทย พร้อมกับอยากให้รัฐบาลส่งเสริมเอกชนไปลงทุนต่างประเทศด้วย
“ส่วนเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต หอการค้าเสนอรัฐบาล เพราะมองว่ามีระบบอยู่แล้วอย่างแอปเป๋าตัง มีแพลตฟอร์มวอลเล็ตหน่วยงานอื่นของเอกชนซึ่งมีอยู่แล้วน่าจะใช้ส่วนนี้เป็นประโยชน์ได้ ไม่ต้องรอและไม่ต้องลงทุน เพราะจะเสียเวลา ซึ่งแอปเป๋าตังมีการลงทะเบียน 40 ล้านคน”
นายสนั่น กล่าวว่า ในนาม กกร. เองให้ความสำคัญ เศรษฐกิจภาพรวม ยกระดับขีดความสามารถ เรื่องบีซีจี สีเขียวสิ่งเหล่านี้ให้ความสำคัญมาก โดยประเทศไทยต้องยกระดับขีดความสามารถคนรุ่นใหม่ ทั้งด้านเทคโลยี นวัตกรรม เป็นสิ่งสำคัญต้องพัฒนาเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยมีโครงสร้างพึ่งพาต่างชาติมากเกินไป ทำให้ต้องสร้างความเข้มแข็งจากในประเทศด้วย